ค่าเงินปอนด์อังกฤษลดลงหลังจากมีข่าวว่าสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้ลงนามในข้อตกลงการค้า อย่างไรก็ตามยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องทำความกระจ่าง
เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี Donald Trump เรียกข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรว่าเป็นความสำเร็จทางประวัติศาสตร์และเป็นก้าวแรกในความพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจโลกในเชิงปฏิวัติของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานาธิบดีเริ่มเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลง มันกลับชัดเจนว่าไม่ได้ตรงตามที่เขาสัญญาไว้ว่าจะเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่เต็มรูปแบบและครอบคลุมระหว่างสหรัฐและสหราชอาณาจักร
ทรัมป์ได้คาดหวังว่าข้อตกลงนี้จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในนโยบายทางเศรษฐกิจของเขาขึ้นมาใหม่ — ซึ่งในบางส่วนมันก็ได้ทำเช่นนั้น เนื่องจากทั้งค่าเงินดอลลาร์และดัชนีหุ้นสหรัฐตอบสนองไปในทางบวก อย่างไรก็ดี คำถามยังคงอยู่: ปฏิกิริยานี้จะคงอยู่นานแค่ไหน?
ข้อตกลงนี้เป็นการเปิดโอกาสให้สหรัฐมีการเข้าถึงตลาดในวงกว้างขึ้นและกระบวนการศุลกากรที่รวดเร็วขึ้นสำหรับการส่งออกไปยังสหราชอาณาจักร ในขณะที่สหราชอาณาจักรได้รับการลดภาษีในบางส่วนของรถยนต์ เหล็ก และอลูมิเนียม อย่างไรก็ตาม ยังมีรายละเอียดที่สำคัญหลายประการที่ยังคงไม่ได้ถูกเปิดเผย
"ในแง่ของตลาดและผู้ที่กังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย" ทิม ไมเออร์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายการค้าระหว่างประเทศจาก Duke University School of Law กล่าว "จริงๆ แล้วไม่มีอะไรมากที่จะเห็นที่นี่ เห็นได้ชัดว่านี่คือเอกสารกรอบของข้อตกลงไม่ใช่ข้อตกลงที่เต็มรูปแบบ"
ในงานแถลงข่าว ทรัมป์ไม่สนใจคำถามเกี่ยวกับว่าเขาได้กล่าวเกินความจริงเกี่ยวกับความสำคัญของข้อตกลงหรือไม่ โดยเรียกมันว่า "ข้อตกลงที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งสองฝ่าย" เขาเสริมว่า "ทุกประเทศต้องการทำข้อตกลง" เห็นได้ชัดว่าเผชิญกับคะแนนนิยมที่ลดลงและความเชื่อมั่นในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาที่กำลังถดถอย ทรัมป์พยายามจะนำเสนอชัยชนะ เนื่องจากนโยบายภาษีของเขาได้สร้างความไม่มั่นคงในตลาดโลกและเพิ่มความเสี่ยงของการถดถอยในสหรัฐ เขาได้กล่าวซ้ำซากว่าความเจ็บปวดในระยะสั้นจากความพยายามของเขาคุ้มค่า เพราะมันจะนำการลงทุนมาสู่สหรัฐมากขึ้น แต่นเวลาหลัง ท่านประธานาธิบดีได้ทำสัมปทานหลายครั้งในความพยายามที่จะสงบความกังวลของนักลงทุน ทำให้ข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรดูเหมือนการเร่งรีบที่จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้ามากกว่าจะเป็นการบรรลุเป้าหมายที่มีมาเป็นเวลานาน
ทรัมป์บรรยายถึงกรอบการค้ากับสหราชอาณาจักรว่าเป็น "การบุกเบิก" ที่จะขจัดอุปสรรคและขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าสหรัฐ — ซึ่งนักลงทุนต้อนรับความคิดเห็นนี้ในทางบวก อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้จัดการเพียงบางส่วนของประเด็นที่ใหญ่ของบริษัทอเมริกันในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐ-สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรจะยังคงมีภาษีบริการดิจิทัลที่กระทบต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ โดยมอบเพียงการมุ่งมั่นอย่างคลุมเครือว่าจะเดินหน้าไปสู่ข้อตกลงการค้าดิจิทัลในอนาคต ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แก้ไขประเด็นเกี่ยวกับภาษียาแผนครบวงจรที่ตรัมป์เสนอ และแม้ว่าสหราชอาณาจักรจะยกเลิกภาษีสินค้าการเกษตรบางส่วนของสหรัฐ มาตรฐานอาหารที่เข้มงวดของสหราชอาณาจักรก็ยังคงเหมือนเดิม
ท้ายที่สุด สหรัฐและสหราชอาณาจักรได้ออกข้อมูลที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับองค์ประกอบสำคัญของข้อตกลง รัฐบาลสหราชอาณาจักรอ้างว่า สหรัฐจะยกเลิกภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของอังกฤษ ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ของตนเองว่าจะ "เจรจาในการจัดการทางเลือก" เกี่ยวกับภาษีโลหะ และว่ากรอบนี้ได้ก่อตั้ง "การเป็นหุ้นส่วนการค้าใหม่" ในวัสดุ
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ค่าเงินดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อข่าวนี้ ในขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงมีการขายทิ้งในปริมาณมาก
แนวโน้มทางเทคนิคของ GBP/USD
ผู้ซื้อปอนด์จำเป็นต้องยึดแนวต้านที่ใกล้ที่สุดที่ 1.3250 ไว้ได้ แล้วคู่เงินจึงจะสามารถมีเป้าหมายที่ 1.3285 ซึ่งน่าจะเป็นระดับที่ยากที่จะฝ่าฝืน เป้าหมายที่ท้าทายที่สุดคือระดับ 1.3310 หากคู่เงินลดลง บรรดาหมีจะพยายามจะครอบครองที่ 1.3212 หากทะลุกรอบนี้สำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ ย่อมทำให้ตำแหน่งขาขึ้นเสียหายอย่างมากและผลักดันให้ GBP/USD ลดลงสู่ระดับต่ำที่ 1.3170 โดยมีการขยายเพิ่มเติมไปถึง 1.3125
แนวโน้มทางเทคนิคของ EUR/USD
ผู้ซื้อ EUR/USD จำเป็นต้องมุ่งหวังจะยึดระดับ 1.1260 กลับคืนมา การทำเช่นนี้เท่านั้นที่จะอนุญาตให้มีการทดสอบระดับ 1.1310 จากจุดนี้ คู่เงินอาจถึง 1.1370 แต่การทำเช่นนั้นโดยไม่มีการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบันอย่างแข็งแกร่งจะเป็นอุปสรรค เป้าหมายสูงสุดยังคงอยู่ที่ระดับสูง 1.1400 หากคู่เงินร่วงลง ความสนใจของผู้ซื้ออย่างจริงจังคาดหมายไว้เพียงรอบ 1.1205 หากการสนับสนุนนี้ล้มเหลว อาจมีการทดสอบระดับต่ำ 1.1150 อีกครั้ง หรืออาจเปิดสถานะซื้อที่ระดับ 1.1097
